การตกเป็นผู้เสียหายจากอาชญากรรมขณะอยู่ในต่างประเทศ

ดูแลทรัพย์สินมีค่าของคุณ แจ้งเรื่องการถูกชิงทรัพย์ หรือ การใช้กำลังความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ การตกเป็นผู้เสียหายจากการถูกชิงทรัพย์หรือถูกใช้กำลังความรุนแรง

ดูแลทรัพย์สินมีค่าของคุณ

การชิงทรัพย์และการล้วงกระเป๋าเกิดขึ้นได้เสมอในแหล่งท่องเที่ยวในหลาย ๆ ประเทศ กระเป๋าสตางค์ที่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงด้านหลัง หรือ กระเป๋าถือที่แขวนไว้ที่เก้าอี้มักจะถูกขโมยไปได้ง่าย ให้นำเฉพาะของที่จำเป็นติดตัวไปและทิ้งของมีค่าไว้ในตู้นิรภัยในโรงแรม อย่าทิ้งเงินสดหรือหนังสือเดินทางไว้ในรถ ให้เก็บบัตรสำหรับชำระเงินอย่างน้อยหนึ่งใบแยกจากของส่วนอื่น ระมัดระวังเป็นพิเศษขณะสัญจรเพียงลำพังในที่เปลี่ยวและมืด หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีการชุมนุมประท้วง 

แจ้งเรื่องการถูกชิงทรัพย์ หรือ การใช้กำลังความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

แจ้งความที่สถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดโดยเร็วที่สุด ในการขอหนังสือเดินทางใหม่ และ การติดต่อบริษัทประกันจำเป็นต้องใช้เอกสารการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

แจ้งบัตรธนาคารหรือบัตรเครดิต รวมทั้งโทรศัพท์มือถือสูญหาย

หากบัตรธนาคารหรือบัตรเครดิตของคุณสูญหาย ถูกขโมย หรือติดอยู่ในเครื่องกดเงินอัตโนมัติในต่างประเทศ ให้แจ้งธนาคารเพื่อทำการระงับการใช้งานของบัตรทันที 

หากโทรศัพท์มือถือ หรือซิมการ์ดของโทรศัพท์มือถือสูญหาย ให้ติดต่อกับศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือของคุณทันที 

ความช่วยเหลือจากบริษัทท่องเที่ยว หรือ สำนักงานตัวแทนทางการทูต 

หากคุณต้องการความช่วยเหลือ ให้ติดต่อบริษัทท่องเที่ยวของคุณ หรือ สำนักงานตัวแทนทางการทูตของฟินแลนด์ที่ใกล้ที่สุด (สถานเอกอัครราชทูต) หรือ สถานกงสุลกิตติมศักดิ์ หากในประเทศนั้น ๆ ไม่มีสำนักงานตัวแทนทางการทูตของฟินแลนด์ ให้ติดต่อสำนักงานตัวแทนทางการทูตของประเทศอื่นในเขต EU 

ในสถานการณ์ฉับพลัน หรือสถานการณ์วิกฤตที่กระทบกระเทือนจิตใจ (เช่น อุบัติเหตุ, การเสียชีวิตของบุคคลใกล้ชิด, การถูกชิงทรัพย์ หรือ ตกเป็นผู้เสียหายจากการใช้กำลังความรุนแรง) สามารถติดต่อ แผนกฉุกเฉินที่ครอบคลุมทั่วประเทศ  ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินด้านสังคมและกรณีวิกฤตเมืองวานตา ตลอด 24 ชั่วโมง โทร. +358 9 4191 5800 หรือ ศูนย์บริการฉุกเฉินสำหรับผู้เสียหายจากอาชญากรรม

กรณีถูกข่มขืนในต่างประเทศ

หากคุณถูกข่มขืนในต่างประเทศ:

1. ให้ไปในสถานที่ที่ปลอดภัยและขอความช่วยเหลือ

2. รีบติดต่อพบแพทย์โดยทันที สิ่งที่สำคัญคือการเก็บหลักฐาน โดยจะต้องยังไม่ทำการชำระล้างหรือเปลี่ยนเสื้อผ้า เจ้าหน้าที่รักษาพยาบาลจะตรวจอาการบาดเจ็บของคุณ และให้คำแนะนำในการรักษา 

3. แจ้งความกับสถานีตำรวจท้องถิ่น อย่าลืมว่า ในบางประเทศนั้น ความสัมพันธ์นอกการสมรสถือเป็นสิ่งต้องห้าม อาจเกิดผลที่ตามมาคือ ผู้เสียหายจากการข่มขืนอาจตกเป็นผู้กระทำผิด หากคุณไม่แน่ใจเรื่องผลกระทบทางกฎหมาย ให้ติดต่อสำนักงานตัวแทนทางการทูตของฟินแลนด์ในต่างประเทศ หรือ ทนายความ  

4. ติดต่อขอความช่วยเหลือยามวิกฤต

• คำแนะนำสำหรับผู้เสียหายจากการข่มขืน (เวปไซต์ของตำรวจ)
• ศูนย์รับแจ้งกรณีฉุกเฉินทางด้านสังคมและกรณีวิกฤต (เมืองวานตา)
• ศูนย์บริการฉุกเฉินสำหรับผู้เสียหายจากอาชญากรรม 
• สำนักงานตัวแทนทางการทูต สามารถ
• ให้ความช่วยเหลือแก่คุณเพื่อให้ได้รับการรักษาพยาบาล และให้คำปรึกษาเรื่องการแจ้งความ,
• ให้รายละเอียดการติดต่อกับแพทย์ และ ทนายความท้องถิ่น,
• ช่วยติดต่อญาติหรือเพื่อนของคุณในประเทศฟินแลนด์ ตามคำร้องขอของคุณ,
• ให้รายละเอียดการติดต่อเพื่อขอรับบริการความช่วยเหลือกรณีวิกฤต และ
• ห้ความช่วยเหลือในการจัดการเรื่องการเดินทางกลับบ้าน

หมายเหตุ:

การดำเนินคดีเกี่ยวกับคดีอาญา จะดำเนินการตามกฎหมายของประเทศที่เกิดเหตุ การสืบสวนคดีโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้เวลาระยะหนึ่ง เมื่อคุณไม่อยู่ที่นั่นแล้ว ทนายสามารถเป็นตัวแทนของคุณได้ แต่อาจมีความจำเป็นต้องกลับมายังประเทศที่เกิดเหตุด้วยตนเองเพื่อเข้าร่วมการพิจารณาคดีในชั้นศาล

การยื่นคำร้องขอการชดใช้ค่าเสียหายไปยังหน่วยราชการของประเทศไทย

หากผู้เดินทางประสบอุบัติเหตุ หรือตกเป็นผู้เสียหายจากอาชญากรรม เขาหรือญาติของเขาสามารถยื่นขอการชดใช้ค่าเสียหายจากหน่วยราชการของประเทศไทยได้ โดยต้องยื่นเอกสารคำร้องภายในเวลา 30 วันนับจากวันเกิดเหตุ 

สามารถรับรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารที่จำเป็น ได้จากหน่วยราชการที่มีอำนาจ: 

สำนักงานแก้ไขปัญหาการหลอกลวง และช่วยเหลือนักท่องเที่ยว, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ประเทศไทย

โทร. +66-2- 3560650, โทรสาร +66-2-3560655

อีเมล [email protected]

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ มีศูนย์สำหรับช่วยเหลือนักท่องเที่ยว คือ Tourist Assistance Center, โทร. +66-2-134-4077, เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง

สถานเอกอัครราชทูตไม่สามารถแนะนำสำนักทนายความเฉพาะที่ใดที่หนึ่งให้ได้ แต่ให้ดูรายชื่อสำนักทนายความภาษาอังกฤษในประเทศไทยจากเวปไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำกรุงเทพฯ